Learn how to pet your lovely members with vast techniques that could be adapted to your own cats. 

Add friend

สูตร โฮลิสติก เสริม Krill oil และ L-Carnitine

นอกจากวัตถุดิบที่ใช้เป็นเกรดคนบริโภคแล้ว  ยังมีส่วนผสมของธัญพืช ที่มีคุณค่าทางอาหารมากกว่าปกติ  ใช้ส่วนผสมธรรมชาติที่มีกรดไขมันโอเมก้าสูง และมีสารต้านอนุมูลอิสระจากน้ำมันคริลล์ และมีผักต่างๆที่ให้วิตามินที่ครบถ้วน หลากหลาย ช่วยกระตุ้นภูมิต้านทานโรคให้แข็งแรงยิ่งขึ้น ลดกลิ่นมูล ลดกลิ่นปาก และการเพิ่มจุลินทรีย์ที่ดีลงไปในอาหาร เพื่อให้น้องหมามีระบบย่อยอาหารที่ดี  มีแอลคาร์นิทีน เพื่อให้การใช้พลังงานของน้องหมาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

Guaranteed Analysis
Crude Protein (min) 12.0%
Crude Fat (min) 0.5%
Crude Fiber (max) 1.0%
Moisture (max) 84.0%

โภชนาการอาหารสำหรับแมว

สุนัข และแมวถือเป็นสัตว์เลี้ยงที่คนเราคุ้นเคยกันดี สำหรับเจ้าของบางคนยังคงมีความเข้าใจผิด ในการให้อาหารแมว โดยมีความเชื่อที่ว่าแมวนั้นไม่ได้แตกต่างจากสุนัขขนาดเล็ก แต่จริง ๆแล้วนั้น สุนัขและแมว

มีการวิวัฒนาการที่แตกต่างกัน ทำให้มีลักษณะทางสรีระวิทยา พฤติกรรม และ ความต้องการทางโภชนาการที่แตกต่างกันด้วย ว่ากันด้วยเรื่องของโภชนาการของแมว ที่มีความจำเพาะ โดยทั่วไปแมวได้รับ

แหล่งพลังงานหลักจากสารอาหารที่สำคัญคือ โปรตีน ไขมัน และคาร์โบไฮเดรต เนื่องจากแมวถือว่าเป็นสัตว์กินเนื้อ (Carnivorous) ดังนั้นแมวจึงมีความต้องการของโปรตีน และไขมันเพื่อใช้เป็นพลังงานจาก

อาหารสูงกว่าในสุนัข และมีความต้องการพลังงานจากแป้ง หรือคาร์โบไฮเดรตที่ไม่สูงมากนัก เพราะแมวมีกระบวนการสร้างและสลายน้ำตาล หรือคาร์โบไฮเดรตที่เฉพาะตัว นอกจากนี้ แมวยังมีความต้องการสารอาหารบางชนิดเป็นพิเศษ เช่น อะมิโนจำเป็นชนิด ทอรีน (Taurine) และอาร์จินีน (Arginine) และกรดไขมันจำเป็นชนิด กรดอะราคิโดนิก (Arachidonic acid) นอกจากสารอาหารหลักดังกล่าวแล้ว แมวยังมีความต้องการวิตามิน และแร่ธาตุต่างๆ ในปริมาณที่เหมาะสมเช่นกัน 

โดยเฉพาะวิตามินเอ และ วิตามินบีสาม (Niacin) ที่แมวไม่สามารถสังเคราะห์ได้เองจากสารตั้งต้นในอาหาร (Pre-vitamin structures) จึงจำเป็นต้องได้รับวิตามินทั้งสองชนิดโดยตรงจากอาหาร เช่นเดียวกับในคน แมวที่ได้รับสารอาหารในสัดส่วน หรือปริมาณที่ไม่เหมาะสมสามารถนำไปสู่โรคต่าง ๆได้ 

นอกจากเรื่องของสารอาหารแล้ว น้ำก็เป็นอีกส่วนที่มีความสำคัญ โดยปกติแมวนั้นเป็นสัตว์ที่มีพฤติกรรมที่ทานน้ำน้อย ดังนั้นการตั้งน้ำสะอาดที่แมวสามารถเข้าถึงได้ตลอดเวลา ก็ถือเป็นอีกประเด็นสำคัญที่เจ้าของทุกคนต้องคำนึงถึง 

อาหารเปียกดีกับแมวอย่างไร

อาหารเปียกจะมีความชื้นที่มากกว่า 70 %

 โดยทั่วไปมีความน่ากิน และความสามารถในการย่อยได้ (Digestibility) สูงกว่าอาหารแห้ง และเนื่องจากแมวเป็นสัตว์ที่กินน้ำน้อย และอาหารเปียกมีน้ำเป็นส่วนประกอบมากกว่าอาหารแห้ง ทำให้แมวที่กินอาหารเปียกสามารถได้รับน้ำเพิ่มเติมจากอาหารซึ่งอาจมีผลดีกับระบบขับถ่ายปัสสาวะ อย่างไรก็ตามอาหารเปียก อาจไม่สะดวกกับการเตรียม หรือการเก็บรักษามากนัก เจ้าของสามารถคำนึงถึงข้อดี และข้อเสียเหล่านี้ในการเลือกประเภทของอาหารได้

เรื่องของปัญหาสุขภาพก็เป็นอีกประเด็นสำคัญในการเลือกอาหาร

 เพราะโรคหรือภาวะความผิดปกติบางอย่างจำเป็นต้องได้รับสารอาหารที่จำเพาะ หรือควรจะได้รับสารอาหารบางประเภทอย่างจำกัด เพื่อชะลอความรุนแรงของโรค 
สรุปสั้นๆ ได้ว่า การเลือกอาหารที่เหมาะสมให้กับแมวนั้น เจ้าของจำเป็นต้องคำนึงถึง ช่วงอายุ และไลฟ์สไตล์ของแมว รวมไปถึงประเภทของอาหาร สารอาหารที่จำเป็น และวัตถุดิบที่ใช้เป็นส่วนประกอบในอาหาร